เศรษฐกิจปี 2023 เศรษฐกิจไทย 2022 เศรษฐกิจโลก 2565 เศรษฐกิจโลก 2022 เศรษฐกิจไทย 2565 ล่าสุด อันดับเศรษฐกิจโลก 2022 คาดการณ์เศรษฐกิจไทย 2565 ข่าวเศรษฐกิจโลก 2022 ภาพรวมเศรษฐกิจไทย 2565 วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก 2565
เศรษฐกิจปี 2023รับต้นปี 2023 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่ง แห่ปลดคนออก ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Salesforce, Microsoft และ Google ถ้านับตั้งแต่ปีที่แล้ว 2022 อุตสาหกรรมเทคโนโลยีปลดคนไปแล้วกว่า 150,000 คน ทั่วโลก จนมาถึงปีนี้บริษัทเทคหลายแห่งยังเลย์ออฟพนักงานต่อเนื่อง หรือนี่เป็นแค่สัญญาณแรกเริ่ม เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ทำไมธุรกิจเทคโนโลยีจึงไม่สดใสเหมือนก่อน คนทำงานสายเทคจะทำอย่างไรต่อไป? ย้อนรอย-ปลดต่อเนื่อง บริษัทไหนเลย์ออฟพนักงานไปแล้วบ้าง เศรษฐกิจไทย 2022เพียงช่วงเดือนแรกของปี 2023 บริษัทหลายแห่งได้ประกาศเลิกจ้างพนักงาน ไปแล้วหลายหมื่นตำแหน่ง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี อย่างกรณีบริษัท Amazon ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ ประกาศปลดพนักงานระลอกใหญ่ 18,000 คน หรือคิดเป็นเกือบ 3 % ของจำนวนพนักงานทั้งหมด
และในวันเดียวกัน Salesforce ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ธุรกิจของสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศจะเลิกจ้างคนอีกประมาณ 8,000 คน หรือคิดเป็น 10% ของจำนวนพนักงาน ทางด้านของ Google ก็เอาด้วยปลดชุดใหญ่ 12,000 คน ส่วน Micrsoft ปลด 11,000 คน หรือ 5% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ข่าวเศรษฐกิจโลก 2022หลังจากปีที่แล้วปลดพนักงานไปหลายพันคนในธุรกิจเกม นอกจากนี้ บริษัท Adobe ก็ได้ประกาศลดพนักงานลงเช่นกัน ราว 100 ตำแหน่ง หรือจะเป็น Chime Financial สตาร์ทอัพธนาคารดิจิทัล ปลดพนักงาน 160 ตำแหน่ง และ Vimeo แพลตฟอร์มโฮสต์วิดีโอก็ได้ประกาศผ่าน LinkedIn ว่าบริษัทจะเลิกจ้างพนักงาน 11% และบอกว่านี่คือ ‘ช่วงเวลาที่ยากลำบาก’ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ต่อเนื่องมาจากปี 2022 หลายบริษัทได้ปลดพนักงานไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้ง Meta, Twitter, Tesla, Netflix, Soundcloud, Intel, Apple, Alibaba, Xiaomi และ Shopee
เศรษฐกิจไทย 2022
ข่าวการปลดพนักงาน ได้สร้างความหวาดหวั่นใจให้กับคนที่ทำงานในสายนี้ไม่น้อยเศรษฐกิจโลก 2565 ธุรกิจเทคที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มั่นคงรายได้สูง แต่สถานการณ์ปัจจุบันชีวิตแปรเปลี่ยนแขวนอยู่บนความไม่แน่นอน เพราะไม่รู้ว่าจะถูกเลิกจ้างเมื่อไหร่ ข้อมูลจาก layoffs.fyi เว็บไซต์ที่ศึกษาและติดตามประเด็นการปลดพนักงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี บอกว่า พนักงานจำนวนกว่า 152,000 คน ถูกเลิกจ้างในปี 2022 จากบริษัทเทคโนโลยีมากกว่า 1,000 แห่ง นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า การปลดพนักงานในกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งสูงขึ้นมากที่สุดในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีการลดพนักงานเกือบ 53,000 คน อัตราการเลย์ออฟพนักงานในธุรกิจเทคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยจำนวนพนักงานที่ถูกเลิกจ้างในปี 2022 มีจำนวนมากกว่าแรงงานเทคที่ตกงานจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ทั่วโลกในช่วงปี 2008 ซึ่งเคยอยู่ที่ราว 65,000 คน และในปี 2023 นี้มีความเป็นไปได้มันจะรุนแรงมากขึ้น
เปิดสาเหตุธุรกิจเทคโนโลยี เสื่อมมนต์ขลัง ปี 2023 นี้ สถานการณ์ยังเสี่ยงสูงมากที่บริษัทเทคอีกหลายแห่ง อาจเลย์ออฟพนักงานเพิ่มเติมอีกล็อตใหญ่ กลายเป็นปรากฏการณ์ The Great Layoff ซึ่งถ้าเราไปย้อนไปดูสถานการณ์ในช่วงปีที่ผ่านมา มีหลายสาเหตุที่ทำให้บริษัทเทคทั้งหลายจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายโดยการปลดคนออก สาเหตุแรก คือการฟื้นตัวของสถานการณ์โควิด 19 ช่วงต้นปี 2020 โควิดระบาดหนักจนทำให้หลายประเทศต้องล็อกดาวน์ ผู้คนใช้ชีวิตและทำงานที่บ้านกันมากขึ้น ภาพรวมเศรษฐกิจไทย 2565เกิดความต้องการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครือข่ายเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งในการทำงานและการเรียน รวมถึงกลุ่มธุรกิจเดลิเวอร์รี่ และ E-commerce ต่างได้รับผลพลอยได้ไปด้วย บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมปรากฏการณ์ Talent War หรือสงครามแย่งชิงคนสายเทค หลายบริษัทจูงใจให้คนมาสมัครงานด้วยค่าจ้างที่สูง เพิ่มเงินเดือน ให้สวัสดิการและโบนัส เรียกได้ว่าเป็นยุคแห่งการสปอยคนสายงานเทคโนโลยีก็คงจะไม่ผิดอะไร
เศรษฐกิจโลก 2565
แต่พอตัดภาพมาปี 2022 เมื่อสถานการณ์โควิด 19 เริ่มดีขึ้น ผู้คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน ความต้องการใช้อุปกรณ์ไอทีหรือเครือข่ายเทคโนโลยีที่บ้าน ไม่ได้มากเท่าเดิมอีกต่อไป ผลประกอบการของบริษัทเทคทั้งหลายเริ่มลดลง ทั้งส่วนรายได้และกำไร สาเหตุที่สอง คือสภาพเศรษฐกิจโลกที่ต้องเผชิญกับมรสุมหลายอย่าง ทั้งปัญหาซัพพลายเชนชะงัก เศรษฐกิจโลก 2022จากการล็อกดาวน์ในแหล่งการผลิตขนาดใหญ่อย่างประเทศจีน รวมถึงปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ผลพวงจากเหตุสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เกิดวิกฤตขาดแคลนพลังงาน สินค่าราแพงขึ้นต่อเนื่อง กระทบไปในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ธนาคารกลางหลายแห่งต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และพอปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ผลที่ตามมาคือการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอย หรือ Recession ในปี 2023 จากสภาพเศรษฐกิจที่บอบช้ำนี้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งกลุ่มเทคโนโลยี
ดังนั้นแผนการต่างๆ ของบริษัทที่จะลงทุนเพิ่มหรือขยายธุรกิจต่อ จำต้องกลับมาคิดทบทวนใหม่ ยกเลิกไปก่อนหรือเลื่อนแผนออกไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ดังนั้นการที่บริษัทได้จ้างคนมาก่อนหน้านี้เป็นจำนวนมาก จ้างคนทำงานจนบวมมากเกินไป เผื่อขยายธุรกิจในระยะยาว สุดท้ายมันไม่เป็นตามที่ตั้งใจไว้ ค่าจ้างคนกลายเป็นค่าใช้จ่ายส่วนเกิน วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก 2565เพราะต้นทุนในการจ้างคนสายเทคค่อนข้างสูงกว่าธุรกิจอื่นๆ และพอเข้าสู่มาตรการรัดเข็มขัด บริษัทจึงจำเป็นที่จะต้องปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมาก สาเหตุที่สาม มูลค่าหุ้นเทคลดลงอย่างมาก มีรายงานออกมาว่าปีที่แล้ว มูลค่าของหุ้นเทคโนโลยีบริษัทใหญ่ๆ โดยรวมลดลงมากเลยทีเดียว ยกตัวอย่าง AAPL -29%, MSFT -28%, GOOG -39%, AMZN -51%, TSLA -69% และ META -64% และยังมีอีกหลายบริษัทที่มีทิศทางเป็นแบบเดียวกันนี้ โดย %ที่ลดลง ตีมูลค่าออกมาก็เป็นตัวเลขมหาศาลเลยทีเดียว นักลงทุนบางส่วนเชื่อว่าหุ้นเทคในช่วงก่อนหน้านี้มีมูลค่าสูงเกินไป พอปีที่ผ่านมาเจออัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และการฟื้นตัวของสินทรัพย์อื่นๆ อย่างรวดเร็ว นักลงทุนเริ่มเปลี่ยนทิศทาง หุ้นเทคไม่น่าดึงดูดเช่นเดิม ก็มีส่วนทำให้มูลค่าของมันปรับลดลง
เศรษฐกิจโลก 2022
และสาเหตุที่สี่ คือการแข่งขันในธุรกิจเทคโนโลยีที่รุนแรง ดุเดือด แย่งส่วนแบ่งตลาดกันเอง ทำให้ผลกำไรลดลงด้วย เช่น ธุรกิจสตรีมหนังออนไลน์ เจ้าตลาดอย่าง Netflix ที่เคยเป็นเบอร์หนึ่งมานานหลายปี ตอนนี้ก็เริ่มหนาวๆ ร้อนๆ เมื่อมีคู่แข่งอย่าง Disney Plus และ Amazon Prime เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดคนดูมากขึ้น ข่าวเศรษฐกิจโลก 2022, คาดการณ์เศรษฐกิจไทย 2565, ภาพรวมเศรษฐกิจไทย 2565, วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก 2565, อันดับเศรษฐกิจโลก 2022, เศรษฐกิจปี 2023, เศรษฐกิจโลก 2022, เศรษฐกิจโลก 2565, เศรษฐกิจไทย 2022, เศรษฐกิจไทย 2565 ล่าสุด